อนาคตคือมหาบัณฑิต
ควรใคร่คิดพินิจช่างสงสัย
อีกหนึ่งควรสร้างสรรค์ปัญญาไว
ฝึกวิสัยให้รู้แจ้งประจักษ์จริง
เปรียบความรู้ดั่งทองที่เปลวหลอม
ทองคำปลอมหลอมไปไร้สิ้นสวย
ทองคำเปลวแผ่นบางระรินรวย
คงความสวยคือธาตุทองไม่หมองเอย
เฉกบัณฑิตที่ปองคือทองแท้
ผ่านเบ้าแก้หลอมรูปจนสวยสม
เป็นทองแท้ผ่องค่าน่านิยม
วิเศษชมสุวรรณชาติประดับเมือง
พอดีแต่งให้ในกลุ่มอ่าน เลยนำมาฝากน้องๆ ในรุ่นด้วย ติชมได้ครับ
วันพุธที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑
แด่..อนาคตมหาบัณฑิต BSD
เขียนโดย BSD2 Ex ที่ ๑๔:๔๗:๐๐ 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: โครงการวิชาการ, เม้าธ์กับท่าน ปธ.
โครงการ เติมความรู้ คู่รอยยิ้ม No.1-OO-TECH
ยกมือเท้าคาง เอียงคอเล้กน้อย ทำหน้าละห้อย "เฮ้อ กลุ้มคะ" เหอๆๆ (บาปอีกแล้ว ตู) หลังจากที่ผลสอบ OO-TECH ได้คลอดเป็นวิชาแรก และถือเป็นวิชาแรก มีทั้งความปิติยินดี และใจแป้ว แต่ผ่านไปแล้ว ช่างมันครับ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนสู้ต่อไป คะแนนน้อย แต่ใจยังสู้ว๊อย พี่เคยดูทีวี มี ดร. ท่านหนึ่ง ได้ทุนไปเรียนเมืองนอก ทั้ง ป.โท และ ป.เอก ที่ อเมริกา ทางด้านเคมี จบมาแล้วบอกว่า ไปเรียนเทอมแรก ได้ C+ มาหนึ่งตัว จากนั้นก็ทำให้มีความพยายามมากขึ้น อ่านหนังสือ (ทุกตัว) อย่างต่ำ 2 รอบ ว่าแต่เราอ่านกันกี่รอบหว่า ... เอ้า เข้าเรื่องครับ
ไม่เข้าใจ....น่าเป็นห่วงกว่าคะแนน!
หลังจากที่ดูคะแนนสอบแล้ว เห็นว่าช่วงคะแนนค่อนข้างห่าง ในฐานะหัวหน้าห้องคงต้องทำอะไรบ้าง ทำให้พี่คิดว่า เฮ้ยปล่อยไปแบบนี้ไม่ดีแน่ กล้วว่าจะเสียกำลังใจกันไป แล้ว ถ้าปล่อยไปแบบนี้มีหวังคงล้มหาย ลาจากไปแหงๆ เพราะดูจากคะแนนที่ทำได้น้อย ๆ น่าจะทำข้อสอบแบบไม่เข้าใจ คือ ทำได้แต่ก็รู้สึกไม่มั่นใจในสิ่งที่เขียนลงไป อีกประเด็นคือ ทำไม่ทัน น่าจะเป็น 2 สาเหตุใหญ่ ๆ อันหลังไม่เท่าไหร่ แต่ไม่เข้าใจนี่เรื่องใหญ่ครับ
เพราะวิชา OO-TECH ต้องเอาไปสอบประมวลความรู้ (Comprehensive Exam) ด้วยครับ แล้วอาจจะต้องไปเจออีกใน System Design ก็เป็นได้ ถ้าตอนนี้ปล่อยๆ ไปแล้วไม่เข้าใจ มันจะยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น เหมือนมีปมอะไรค้างอยู่ในใจ แล้วถึงเวลาสอบจบจริง ๆ จะยิ่งกังวลใจไปอีก อยากให้ทุกคนวางเรื่องคะแนนไว้ก่อน เอาเป็นว่ามันเป็นเพียงแค่ค่า KPI อะไรบางอย่างที่บอกว่าเราควรจะรีบปรับปรุง หรือเติมเต็มอะไรบ้าง จุดประสงค์คือ เพื่อทำความเข้าใจ เพื่อจะเอาไปใช้ ส่วนเกรดก็ลุ้นให้ผ่านเกณฑ์มันน่าจะไม่ยาก
โครงการวิชาการ BSD2EX "เติมความรู้ คู่รอยยิ้ม"
เพื่อให้เราได้เป็นรุ่นที่ครบทั้งกิจกรรมสันทนาการ (อันนี้ให้ A+) และการศึกษา จึงมีแนวคิดในเรื่องนี้อยู่ 2 แนวคิด คือ
แนวคิดที่1 หลังจากสอบ แล้ว ถ้าใครทำคะแนนได้ดี ก็จะเป็นคนที่แบ่งปันความรู้ให้กับเพื่อน ๆ (Knowledge Sharing) โดยการทำเฉลย หรือมาเล่าแนวคิดที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการทำข้อสอบ หรือว่าจุดตรงไนที่พวกเราส่วนใหญ่พลาด แต่ เขาและเธอผู้นั้นไม่พลาด ก็จะเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน โดยคนที่พลาดก็จะได้ปิดช่องโหว่ของตัวเอง แล้วก็ได้เติมเต็มในสิ่งที่ตนเองยังขาดอยู่ด้วย แล้วถ้าอาจารย์สามารถแยกคะแนนออกเป็นข้อๆ มาได้ คนที่ทำคะแนนสูงสุดของแต่ละข้อ จะได้รับเกียรติให้เป็นผู้จัดทำเฉลยในข้อนั้น ๆ แต่ถ้าเป็นคะแนนรวม อันดับ 1-5 อาจจะต้องเป็นกลุ่มที่ช่วยกันจัดทำเฉลย และเอามาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังครับ
แนวคิดที่ 2 เตรียมตัวก่อนจะสาย อันนี้มีแนวคิดที่คุยกับป๊อป ไว้เหมือนกันว่า เราจ่าจะเตรียมตัวตั้งแต่ระหว่างเรียนด้วย คือ น่าจะจัดทำสรุปคำบรรยาย หรือ มาทบทวนความรู้หลังเรียน หรือว่า อาจจะต้องทำอะไรก่อนเรียน เช่น หาเคสอะไรนอกเหนือจากที่เรียนมาให้ลองฝึกลองทำ แล้วโพสต์ไปบนเน็ต เป็นเหมือน แหล่งความรู้ ที่ถ้าไม่เข้าคลาส ก็สามารถมาอ่านทบทวน หรือลองเอาไปฝึกได้ หรืออาจจะมีเคสมาแล้ว มาช่วยกันแบ่งไปทำเฉลยๆ มาแล้วเอามาแชร์กันไว้บนเน็ต เป็นต้น ยังไม่ได้คุยรายละเอียดนะครับ ถ้าใครมีไอเดียอะไรเจ๋งๆ ก็ลองเสนอ หรือลากคอไปคุยได้เลยครับ ยินดีมั่กๆๆ ครับ
ประเดิมโครงการด้วยเฉลย OO-TECH
เรื่องนี้คุยไปแล้วในห้อง ต้องขอบคุณทุกคนมาก ๆ ครับ ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีที่สุดเลยครับ งั้นไม่เสียเวลาพี่ขอทบทวน นะครับ ว่าใครได้รับเกียรติให้เฉลยข้อไหนบ้าง
ข้อ 1. USE CASE 12 คะแนน (6+6) Max 11.5 / Avg 9.66 : หนูแนน กะ หนูกิ๊ป
ข้อ 2. Class Diagram 8 คะแนน Max 7.5 / Avg 5.81 : อั๋น กับ แก้ว (มีได้ 7.5 อีกหลายคน ก็อป แนน นุ ศักดิ์ ตัน)
ข้อ 3. Sytem Event 4 คะแนน Max 4 / Avg 2.31 : พี่นุ กับ ปา
ข้อ 4. Sequence Diagram 8 คะแนน Max 8 /Avg 5.20: ศักดิ์ (มีได้เต็มอีก 2 คน ปา กับ กู้)
ข้อ 5. ปรับปรุง Class Diagram 5 คะแนน Max 5 /Avg 2.27 : กู้ (ข้อนี้ได้คะแนนกันค่อนข้างน้อย)
ข้อ 6. State Chart Diagarm 6 คะแนน Max 6 / Avg 3.69 : บัว กับ เจิน (มี ปา ได้เต็มอีกคน)
ข้อ 7. คุณสมบัติของ OO + OOP 17 คะแนน Max 15 / Avg 7.91 : ปา
ขอบคุณ ทีมติวเตอร์ No.1 ขอให้ส่งให้พี่ภายในพฤหัสบดี 24 นี้นะครับ เพราะจะได้เอาไปเตรียมเอกสารให้วันศุกร์ ครับผมเขียนมือมาก็ได้ แล้วแต่สะดวกครับ
แล้วจะจัดตารางติวให้ต่อไปครับ และหวังว่าจะได้เห็นเพื่อนๆ ผลัดกันมาเป็นติวเตอร์ของโครงการต่อๆ ไปนะครับ
ขอบคุณทุกคนมากๆ ครับ
เขียนโดย BSD2 Ex ที่ ๐๐:๕๘:๐๐ 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: โครงการวิชาการ
วันพุธที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑
ขอบคุณสิ่งดี ๆ ใน พิธีไหว้ครู 51
ขอบคุณ พี่ๆ น้องๆ ชาว BSD ที่มาร่วมงาน ช่วยเติมรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ
ภาพบรรยากาศ โดยนายอ๊อค
http://crpis13.multiply.com/photos/album/32/Teachers_Day_BsdEx_2008-01-16#
งานนี้ไม่ฟรี ค่าจัดเลี้ยง คนละ 200 บาท ไม่มาก็ต้องจ่าย จริง ๆ พี่กบ BSD ONE แจ้งมาหัวละ
140 บาท เฮียเก็บเข้าห้อง 60 บาท รวม เป็นคนละ 200 บาท คิดง่ายไม่ต้องทอน ไม่มี method ทอนเงิน() มีแต่ method เก็บเงิน() ให้แต่ละกลุ่มรวบรวมนำส่งที่ ญิ๋ง เนื่องจาก กิ๊ป เหรัญญิกเสียงใส ติดภาระกิจงานนสัมมนาบริษัท
เขียนโดย BSD2 Ex ที่ ๒๓:๔๘:๐๐ 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: บันทึกเหตุการณ์สำคัญ, เม้าธ์กับท่าน ปธ.
วันศุกร์ที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑
พิธีไหว้ครู ประจำปี 2551
กำหนดการ
17.50 น. | รับลงทะเบียน ผู้เข้าร่วมงาน |
18.10 น. | พิธีถวายความไว้อาลัย แด่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา |
18.15 น. | เริ่มพิธีไว้ครู ตัวแทนนิสิตนำนิสิตกล่าวคำไหว้ครู |
18.20 น. | ประธานในพิธี รับมอบพานดอกไม้ธูปเทียน จากตัวแทนนิสิต |
18.30 น. | นิสิตกล่าวคำปฏิญาณตน |
18.35 น. | ประธานในพิธีกล่าวให้โอวาทแก่นิสิต |
18.40 น. | นิสิตร่วมร้องเพลง มหาจุฬาลงกรณ์ |
18.45 น. | จบพิธี |
เขียนโดย BSD2 Ex ที่ ๒๓:๓๙:๐๐ 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: ประชาสัมพันธ์
วันจันทร์ที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑
ทริป ไหว้พระ 9 วัด ทั่วกรุงเทพ
เขียนโดย BSD2 Ex ที่ ๑๒:๔๒:๐๐ 1 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: บันทึกเหตุการณ์สำคัญ
วันพฤหัสบดีที่ ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑
~ แสงหนึ่งคือรุ้งงามแห่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้เป็นประธานคณะกรรมการจัดทำหนังสือประกอบนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ขึ้น 1 ชุด ชื่อว่า “แสงหนึ่งคือรุ้งงาม”
ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม ได้จัดทำหนังสือเล่มนี้และได้เขียนคำนำในหนังสือเล่มนี้เอาไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 ความตอนหนึ่งว่า:
หนังสือ “แสงหนึ่งคือรุ้งงาม” แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือ “แสงหนึ่ง” เป็นพระประวัติอย่างสั้นแต่ได้ใจความ อาศัยภาพเป็นเครื่องอธิบาย อีกส่วน “คือรุ้งงาม” ซึ่งอธิบายว่า แม่เปรียบเสมือนแสงหนึ่ง ที่ส่งสะท้อนเป็นรุ้ง 7 สีที่สวยงาม และแต่ละสีสื่อความหมาย เช่น แม่เป็นคนเรียบง่าย แม่มีพลังสร้างสรรค์ แม่มีความเมตตา และอื่นๆ จนครบ 7 สี และแสงหนึ่งนี้ยังมีความหมายที่ส่องยังบุคคลอันเป็นที่รักและเทิดทูนยิ่งของปวงชนชาวไทย คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษาอีกด้วย
“ลูกหวังว่า หนังสือ “แสงหนึ่งคือรุ้งงาม” จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่ได้อ่าน และหากคิดสักนิดก็จะเห็นว่า ใครก็ตามไม่ว่ายากดีมีจน ก็สามารถทำประโยชน์ให้คนอื่นได้เสมอ ไม่มากก็น้อย”
เมื่อใครก็ตามที่ได้อ่านหนังสือชุดดังกล่าวก็จะรู้สึกประทับใจตลอดทั้งเล่ม เป็นการรวบรวมรูปภาพ หลักฐาน และเหตุการณ์ต่างๆ ที่หายาก แม้แต่ปริญญาบัตรที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้จบนั้นเป็นปริญญาบัตรด้านวิทยาศาสตร์สาขาเคมี ซึ่งคนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้ ก็ยังปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มดังกล่าวด้วย
ผู้ที่ได้อ่านหนังสือชุดนี้ยังจะได้ความประทับใจในความรักและสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันระหว่างสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กับพระอนุชาทั้งสอง ที่สะท้อนมาเป็นภาพส่วนพระองค์ที่หาชมยากและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เยาว์วัย การดำเนินชีวิตในวังสระปทุม พระปรีชาสามารถที่มีความหลากหลาย ตลอดจนการเลี้ยงดูของสมเด็จพระบรมราชชนนี
หลายภาพและหลายข้อความเมื่อได้เห็นแล้วต้องถึงกับน้ำตาซึมด้วยความปลาบปลื้มประทับใจอย่างที่ยากจะบรรยาย !!!
ทั้งสามพระองค์พี่น้องในราชสกุลมหิดล ต่างสนิทสนมรักใคร่ผูกพันทรงเติบโตท่ามกลางความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ สมเด็จพระบรมราชชนนีทรงอบรมดูแลให้ทุกพระองค์ช่วยเหลือตนเอง มีระเบียบวินัย และเอื้อเฟื้อต่อผู้ด้อยโอกาสกว่า จนเป็นพื้นฐานสำคัญในพระอุปนิสัยของทุกพระองค์
“ในครอบครัวเรา ความรับผิดชอบ เป็นของที่ไม่ต้องคิด เป็นธรรมชาติ สิ่งที่สอนกันอันแรกคือ เราจะทำอะไรให้เมืองไทย” คือพระราชดำรัสสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ทรงตั้งอยู่ในพระปณิธานที่แน่วแน่ ทรงอุทิศพระองค์ด้วยพระกรณียกิจตลอด 84 ปีที่ผ่านมา เพื่อส่วนรวมหลายแขนง ตั้งแต่เสด็จกลับเมืองไทยในปี พ.ศ. 2493 ทรงเริ่มต้นเป็นอาจารย์สอนนิสิตนักศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยอื่นๆ อีกหลายแห่ง
ภาพที่ประชาชนไทยต่างคุ้นเคยและอยู่ในความทรงจำมาจนทุกวันนี้ คือเมื่อครั้งที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนียังทรงเจริญพระชนมชีพ ได้เสด็จไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรตามท้องถิ่นทุรกันดารอยู่เสมอ พร้อมกับทรงนำแพทย์อาสาไปให้การรักษาผู้เจ็บป่วย โดยมีสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ตามเสด็จอยู่เคียงข้างเสมอ
แม้เมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว นอกจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จะทรงสืบสานพระปณิธานแล้ว ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ บางองค์กรทรงก่อตั้งด้วยพระองค์เองรวม 63 มูลนิธิ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงราษฎรไทยสืบไปทั้งสิ้น
ครั้นเมื่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้ทรงพระชนมายุครบ 6 รอบนักษัตร 72 พรรษา ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2538 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนาพระอิสริยศักดิ์ เป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน เป็นพระองค์แรกในรัชกาลปัจจุบัน มีพระนามตามพระสุพรรณบัฏ ว่า “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” ดังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศเกียรติคุณไว้บางตอนว่า
“สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา เป็นสมเด็จพระโสทรเชษฐาภคินีอันสนิทแต่พระองค์เดียวที่ได้ทรงร่วมสุขร่วมทุกข์กันมาแต่ยังทรงพระเยาว์ ทั้งเป็นผู้ที่ทรงเคารพนับถือในฐานะที่ทรงมีอุปการคุณมาแต่หนหลัง... ต่อมาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ก็ยังใฝ่พระหฤทัยมั่นคงอยู่มิได้ทอดทิ้งในอุปภารกิจที่มีแก่พระองค์ โดยเจตจำนงมุ่งหมายแต่จะให้ทรงพระเกษมสุข และทรงพระเจริญยิ่งด้วยพระราชอิสริยยศในมไหศูรย์สมบัติ... ทั้งได้ปฏิบัติวัฏฐากสมเด็จพระบรมราชชนนีอย่างใกล้ชิดในที่ทุกสถาน และรักษาพยาบาลในเมื่อทรงพระประชวรโดยมิได้มีความเบื่อหน่ายย่อหย่อน ด้วยมีพระประสงค์แบ่งเบาพระราชภาระทำให้ทรงคลายพระราชกังวล และวางพระราชหฤทัยในการส่วนสมเด็จพระบรมราชชนนีได้เป็นอันมาก...
มาบัดนี้ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ทรงเจริญด้วยวัสสยุกาลวัยวุฒิกอปรด้วยพระอัธยาศัยซื่อตรง ดำรงพระองค์มั่นอยู่ในสุจริตธรรมสัมมาจารี มีความกตัญญูกตเวทีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งทรงพระคุณแก่บ้านเมืองปรากฏอยู่เป็นอเนกปริยาย สมควรที่จะสถาปนาพระอิสริยศักดิ์ให้สูงขึ้น โดยอนุโลมตามแบบอย่างโบราณราชประเพณี”
พระกรณียกิจตลอด 84 พรรษา ที่ทรงงานหนักมาตลอดนั้นมีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์อยู่มากมาย ทั้งในด้านการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและเด็กผู้ด้อยโอกาส, ทรงสนับสนุนส่งนักเรียนไทยรุ่นแรกไปแข่งโอลิมปิกวิชาการ,ทรงก่อตั้งทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิก, ทรงงานในมูลนิธิขาเทียมในพื้นที่ภาคใต้, ทรงงานช่วยเหลือเด็กออทิสติก, ทรงสนับสนุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไต, ทรงงานในมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ฯลฯ ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงสืบสานพระปณิธานในพระกรณียกิจร่วมกับสมเด็จพระบรมราชชนนี เสด็จพระดำเนินไปทุกที่ ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะยากลำบากเพียงใด ทรงเปี่ยมด้วยพลัง เสด็จไปถึงที่โดยมิย่อท้อ เพื่อความอยู่ดีมีสุขของปวงประชา
“แสง” ส่องสว่างอาบสะท้อนให้ผู้คนเห็นความงดงามของสรรพสิ่ง แสงมีคุณค่าที่ไม่เคยปรากฏตัว ผู้คนไม่คิดจะค้นหา..
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ ทรงเป็นดังแสงหนึ่งที่ส่องให้เห็นความงดงามบนแผ่นดินไทย เป็นดังแสงแห่งการให้ แสงแห่งความรัก และแสงแห่งความกรุณา
เมื่อแสงนั้นฉายผ่านท้องฟ้าจึงปรากฏเป็นรุ้งงาม 7 สี กอปรไปด้วย แดง เหลือง เขียว น้ำเงิน คราม ม่วง ดุจดังพระเกียรติคุณทั้งเจ็ด... ทั้งความเรียบง่าย รู้แจ้งเห็นจริง เปี่ยมพลังสร้างสรรค์ อุทิศพระองค์เพื่อปวงชน พระเมตตา ให้เกียรติผู้อื่น และความสง่างาม
ถ้าจะเปรียบตามจริงแล้ว ยังทรงเปรียบประดุจแสงที่ส่องฉาย และอาบสะท้อนให้ผู้คนได้มองเห็นความยิ่งใหญ่ ความสวยงามของพระราชบิดา พระราชมารดา พระอนุชาทั้งสองพระองค์ตลอดมา โดยผ่านพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ รวมถึงพระกรณียกิจ, พระจริยวัตร, พระนิพนธ์หลากหลายมากมายนับไม่ถ้วน และ “แสงหนึ่ง” นี้ยังส่องสว่างให้ประชาราษฎร์ไทยในแผ่นดินได้มีชีวิตที่ดีขึ้น สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นจากพระกรณียกิจผ่านองค์กรและมูลนิธิต่างๆ มากมาย
เหนือสิ่งอื่นใด แสงหนึ่งนี้ ส่องยังผู้เป็นที่รักและเทิดทูนยิ่งของคนไทยทั้งแผ่นดิน
แม้วันนี้สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์จะได้สิ้นพระชนม์ไปด้วยความโศกเศร้าของคนไทยทั้งประเทศ แต่แสงหนึ่งนี้จะฉายสะท้อนให้เห็นความงามทั่วแผ่นดินตราตรึงหัวใจประชาชนชาวไทยไปชั่วนิจนิรันดร์
****
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
2 มกราคม 2551 16:04 น.
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000000070
เขียนโดย BSD2 Ex ที่ ๑๔:๓๐:๐๐ 2 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: บันทึกเหตุการณ์สำคัญ
วันศุกร์ที่ 4 มกราคม 51 ไม่มีเรียน OO ไม่ต้องมา
วันศุกร์ที่ 4 มกราคม 51 ไม่มีเรียน ไม่มี Present งาน OO
ส่งรายงานวันสอบ OO 8 มกราคม 51 ทีเดียวเลยครับ
ต้องขออภัยที่สร้างความสับสน ในชีวิตให้เล็กน้อยเกี่ยวกับการส่งงาน OO ในวันศุกร์ที่ 4 ม.ค. 51 เฮียได้โทรสอบถามอาจารย์แล้ว ด้วย อ.อัษ อยากให้เราทำเสร็จก่อนสอบ กลัวว่าเราจะมัวแต่ไปนั่งทำงานกัน
และก็จะไม่ได้อ่านหนังสือ ก็เลยกำหนดส่งวันที่ 4 เพราะคิดว่าคงจะมีงานปีใหม่ BSD ในวันนั้นครับ นับเป็นความกรุณาของอาจารย์ครับ
แต่ก็ดีครับ เหอๆๆ เพราะหลายกลุ่มคงใกล้เสร็จแล้ว ต้องขออภัยที่ไปเติมความเครียดให้น้องๆ ครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
**
ขอแถมเล็กน้อย เฮียเปิด hi5 ตามกระแสแล้ว http://bsd2ex.hi5.com ประเดิมด้วยรูปทัวร์ธรรมะ ไหว้พระ 9 วัด เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 50 ที่ผ่านมา นำทีมโดย ประธานฝ่ายสงฆ์ นายป๊อป ครับ ...
ตอนนี้เปิดรับสมัคร ประธานฝ่ายวิชาการ อยู่ครับ สนใจสมัครด่วน
เรื่องของขวัญตอนนี้ให้กลุ่มเบิร์ด อั๋น แก้ว กิ๊ป ญิ๋ง อิม ช่วยดำเนินการ แต่เพื่อน ๆ ก็เสนอไอเดียได้นะครับ ช่วย ๆ กัน
เขียนโดย BSD2 Ex ที่ ๐๙:๔๑:๐๐ 0 ความคิดเห็น
ป้ายกำกับ: ประชาสัมพันธ์